ศึกษาความหลากชนิดของหญ้าเผ่าแอนโดรโพโกนีในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋ำจังหวัด พะเยา โดยสำรวจและเก็บตัวอย่างในภาคสนามระหว่างเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 จากการศึกษาพบว่าหญ้าเผ่าแอนโดรโพโกนีมีลักษณะเด่นคือการมีช่อดอกแบบช่อกระจะเดี่ยวหรือกระจะประกอบ มีบางชนิดเป็นช่อแยกแขนง โดยแกนช่อกระจะหักขาดจากกันได้ง่ายมีช่อดอกย่อยออกคู่ ได้แก่ ช่อดอกย่อยมีก้านที่เป็นเพศผู้หรือลดรูปและช่ออกย่อยไร้ก้านที่สมบูรณ์เพศช่อดอกย่อย ไร้ก้านมีสองดอกย่อยซึ่งกาบล่างของดอกบนเปลี่ยนแปลงไปเป็นรยางค์แข็งขนาดใหญ่โดยพบทั้งหมดจํานวน 28 สกุล 37 ชนิดสกุลที่พบจํานวนชนิดมากที่สุดคือสกุล Bothriochloa Kuntze พบจํานวน 3 ชนิด ได้สร้างรูปวิธานระบุชนิดของพืชที่ศึกษาทุกชนิด บันทึกข้อมูลชื่อสามัญ นิเวศวิทยา และช่วงเวลา การออกดอกโดยหญ้าเผ่าแอนโดรโพโกนีมีการกระจายพันธุ์ตามทุ่งหญ้า พื้นที่โล่งทั่วไป หรือเป็นพืชพื้นล่างในป่าเต็งรัง และส่วนใหญ่ออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์

     Species diversity of the tribe Andropogoneae (Poacee) in Pa Mae Tam national protected area, Phayao province, was studied between May 2019 and March 2020 by conducting field works and plant collections. The result shows that tribe Andropogoneae can be distinguished by having mostly single or compound racemes, sometimes with a true panicle whichthe rachises of racemes are fragile. Their spikelets are binate with hermaphrodite sessile spikelets and male or reduced pedicelled spikelets. The sessile spikelet comprises two florets which the upper lemma may be modified to a large awn. Twenty-eight genera and 37 species are enumerated in the area. The highest species number is the genus Bothriochloa Kuntze with three species. Key to species of grasses in the area is constructed. Thai common name, ecological data and flowering period of each species are provided. The grasses in the tribe Andropogoneae are mostly distributed in grasslands and open areas orbeing undergrowth plants of dry dipterocarp forests having flowering period in between July and February.