ศึกษาการใช้ประโยชน์พืชพื้นบ้านโดยชาวพื้นเมืองและชาวลัวะในตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน เพื่อทราบชนิดพืชที่ชาวบ้านนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน โดยสำรวจพืชใน 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านห่างทางหลวง บ้านผาสุข บ้านห้วยล้อม และบ้านห้วยลอย ซึ่งเป็นชาวพื้นเมือง 2 หมู่บ้าน และชาวลัวะ 2 หมู่บ้าน ตามลำดับ บันทึกข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ที่มีความรู้ในการใช้ประโยชน์จากพืชเป็นอย่างดี และเก็บตัวอย่างพืชเพื่อนำมาระบุชื่อวิทยาศาสตร์และจัดทำตัวอย่างพันธุ์ไม้แห้ง พบพืชทั้งหมด 585 ชนิด 347 สกุล 131 วงศ์ จำแนกเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ 448 ชนิด พืชใบเลี้ยงเดี่ยว 121 ชนิด เฟิร์นและกลุ่มพืชคล้ายเฟิร์น 14 ชนิด และกลุ่มพืชเมล็ดเปลือย 2 ชนิด จำแนกการใช้ประโยชน์ของพืชได้เป็น 8 กลุ่ม คือ พืชอาหาร 330 ชนิด พืชอาหารสัตว์ 14 ชนิด พืชสมุนไพร 180 ชนิด พืชใช้สร้างที่อยู่อาศัย 109 ชนิด พืชใช้ทำอุปกรณ์เครื่องใช้ 73 ชนิด พืชใช้ในพิธีกรรม 9 ชนิด พืชมีพิษต่อสัตว์มีกระดูกสันหลัง 4 ชนิด และพืชปลูกประดับ 18 ชนิด ข้อมูลที่ได้จากการศึกษานี้จะเป็นแนวทางอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาพื้นบ้านต่อไป
Indigenous plants usage by native and Lua populations in Phu Fah Subdistrict, Bo Klua District, Nan Province, was conducted to collect the name of plants use in their daily life. The study was done by surveying from four villages are Ban Hang Tang Luang, Ban Pha Suk, Ban Huay Lom and Ban Huay Loy, which is the native people 2 villages and Lua people 2 villages, respectively. The data from interviewing key informants about the usage, common name and the parts of plants were collected. The collected specimens were identified and made for herbarium specimens. There were the total of 585 species in 347 genera 131 families. They were classified into 448 species of dicotyledon, 121 species of monocotyledon, 14 species of pteridophyte and 2 species of gymnosperm. Eight groups were classified according to their usage, including food plants 330 species, animal food plants 14 species, medicinal plants 180 species, housing-material plants 109 species, utensils plants 73 species, spiritual ceremony plants 9 species, vertebrate-poison plants 4 species and ornamental plants 18 species. The data from this study can be used for conservation and continuing folk
wisdom.